พิชิตรักนอกใจ ทำอย่างไรให้ห่างไกลความสัมพันธ์คบซ้อน

หลายครั้งคนเรามักตั้งคำถามเกี่ยวกับความรักเอาไว้มากมาย โดยเฉพาะเมื่อใดที่ความรักเริ่มทำพิษ คำถามจะประดังประเดเข้ามาในหัว อย่าง “การนอกใจ” ฝันร้ายของความสัมพันธ์แบบคู่รักหรือคู่ชีวิต ซึ่งจุดเริ่มต้นอาจมาจากการสร้างพันธะทางใจจากคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน ปาร์ตี้ชั่วข้ามคืน หรือเป็นเพียงความต้องการรสชาติใหม่ ๆ ให้กับชีวิต ดังนั้น จึงเกิดคำถามขึ้นว่า ทำไมความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคนจึงยังไม่เพียงพอ และที่เขาบอกกันว่าเพศชายมีโอกาสที่จะนอกใจมากกว่าเพศหญิงจริงหรือไม่ เราจะมีวิธีป้องกันไม่ให้คู่รักของเรานอกใจหรือเปล่า เราจะพาทุกคนไปหาทางออกเพื่อพิชิตรักนอกใจและอยู่ให้ไกลความสัมพันธ์ที่ต้องคบซ้อนกันค่ะ

ย้อนกลับไปดู เพศชายไม่รู้จักพอจริงหรือ?

หากย้อนกลับไปสักพันปีก่อน ลักษณะคู่ผัวเดียวเมียเดียวยังไม่มีหรอกค่ะ เราสามารถอธิบายในเชิงชีววิทยาได้ว่าในด้านการสืบพันธุ์ ผู้หญิงเป็นเพศใช้เวลาที่นานกว่า เพราะต้องตั้งครรภ์และเลี้ยงลูกอย่างน้อย 1 ปี อีกทั้งยังถูกคาดหวังจากสังคมในฐานะ “แม่” ที่สูงกว่าเพศชาย ซึ่งเมื่อมาดูบทบาทในแง่นี้แล้ว ผู้ชายจึงมีหน้าที่ขยายเผ่าพันธุ์ให้ได้มากที่สุด ซึ่งผู้ชายนั้นจะไม่รู้สึกว่าการมีคู่รักทีละหลายคนเป็นเรื่องผิดอะไร แต่เมื่อเวลาผ่านไปที่ผู้หญิงเริ่มตระหนักถึงสิทธิของตัวเองมากขึ้น การกำหนดบรรทัดฐานผัวเดียวเมียเดียวจึงเริ่มต้นขึ้นเพื่อมาแก้ปัญหานี้นั่นเอง แม้ว่าปัจจุบันแนวคิดการมีคู่รักทีละหลายคนจะไม่ได้รับการยอมรับสักเท่าไหร่ แต่เรายังคงปฏิเสธไม่ได้ว่ากรอบความคิดที่ตกทอดมาอย่าง “สังคมชายเป็นใหญ่” ยังทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางเพศให้เห็นอยู่เรื่อย ๆ

Commitment = การสร้างความมั่นคงในความสัมพันธ์

พื้นฐานความรักที่จะทำให้เรามีความสุขมาจากความอบอุ่น ความตื่นเต้น และความรู้สึก Commitment เราลองคิดตามกันนะคะว่า ถ้าเราเลือกที่จะหยุดอยู่ที่ความตื่นเต้น ปิดโอกาสที่ตัวเราจะได้ลงเอยกับใคร ๆ หรือเราเอาแต่เปลี่ยนคู่ไปเรื่อย ๆ ท้ายที่สุด เราก็จะไม่เจอความสัมพันธ์ที่มั่นคงและปลอดภัยได้เลยค่ะ ซึ่งหลายคนที่มีคู่อยู่แล้วจึงเลือกที่จะหาความตื่นเต้นและหวือหวานั้นจากบุคคลที่สามหรือบุคคลนอกความสัมพันธ์ ถ้าในยุคสมัยนี้ เราก็ต้องเคยเห็นคำว่า “คนคุย” เวลาที่เราถามใครสักคนว่า นั่นแฟนเธอเหรอ และอีกฝ่ายตอบมาว่า เปล่า แค่คนคุย ดังนั้น นิยามของคำว่าคนคุยจึงหมายถึง คนที่เข้ามาและอยู่ในช่วงที่เรายังลังเลใจ ไม่พร้อมที่จะรับการผูกมัด หรือ Commitment เพราะว่าหากเมื่อใดที่เกิดไม่ถูกใจแล้ว ก็ยังมีทางเลือกที่จะเปลี่ยนคนคุยไปเรื่อย ๆ ได้
ในเชิงจิตวิทยาจะมีการตั้งคำถามว่า “เรามองตัวเราและมองคนที่เรามีความสัมพันธ์ด้วยอย่างไร ถ้าเรามองว่าตัวเรามีคุณค่า มองอีกฝ่ายว่าเป็นที่พึ่งพิงได้ มันก็สามารถเป็นความสัมพันธ์ที่ดีได้ แต่เราไม่มั่นใจ ไม่เชื่อว่าอีกฝ่ายจะพึ่งพิงได้ เมื่อความทุกข์ถูกกั๊กเอาไว้ เราจะไม่สามารถปล่อยใจของเราไปตามความรู้สึกได้เช่นกัน เพราะเกิดถ้าเรา Commitment ไป แล้วคนนี้ทำร้ายจิตใจเรา เราจะยิ่งเจ็บ แต่ในขณะเดียวกันความรักเป็นเรื่องที่ซับซ้อนกว่านั้น เพราะเราไม่สามารถคอนโทรลความเจ็บได้ แล้วถ้าหากเรากลัวการ Commitment ความรู้สึกผูกพันหรือเจ็บกับสิ่งที่เขาทำบางอย่าง มันจึงกลายเป็นความย้อนแย้งที่ซับซ้อน”

เมื่อการเลือกคนที่เหมาะสม ไม่ใช่สาเหตุของการนอกใจ

หลายคู่ลงเอยด้วยการเลิกราจากเหตุผลที่ว่า “ทัศนคติไม่ตรงกัน” บางคนมีคู่ที่เพียบพร้อม ทั้งหน้าตา ฐานะ หน้าที่การงาน แต่ไปติดว่าเรื่องเซ็กส์กลับไม่เข้ากัน ทำให้เกิดการแสวงหาข้างนอกมาเติมเต็ม ซึ่งหลายครั้งผู้หญิงก็รู้สึกผิดและปล่อยคู่ของตนไปหาความสุขข้างนอก เพียงเพราะรู้สึกผิดที่ทำให้คู่ของตนมีความสุขไม่ได้ แต่นั่นก็ยังไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกนัก และยังทำให้เกิดปัญหาเรื้อรังในระยะยาวอีกด้วยค่ะ และก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่กล้าจบความสัมพันธ์กับคนแรก แต่เลือกที่จะหาส่วนที่ขาดจากคนอื่นมาทดแทน จึงเกิดเป็นปัญหาคบซ้อนแบบไม่จบ ไม่สิ้น

การสื่อสาร : ยาวิเศษสำหรับชีวิตคู่

หลายคนอาจสงสัยว่าที่เขาบอกกันว่าความสัมพันธ์ที่ Healthy มันเป็นอย่างไรกันนะ จริง ๆ แล้ว ความสัมพันธ์ที่ Healthy ที่สุดคือความสัมพันธ์ที่เราสามารถสื่อสารกันได้ ตราบใดที่เรายังคุยกันได้ ความสัมพันธ์สามารถไปต่อได้ การพูดคุยกันนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญกับความสัมพันธ์ทุกรูปแบบ ไม่ใช่เพียงแค่ความสัมพันธ์ในเชิงชู้สาวเท่านั้น เพียงแต่จะยิ่งสำคัญสำหรับคู่รักหรือคู่ชีวิต เพราะความสัมพันธ์ที่ดีต้องเป็นความสัมพันธ์ที่ให้เกียรติ มองเห็นคุณค่ากันและกัน เกื้อหนุนกัน และมีพื้นที่ให้ต่างฝ่ายต่างมีโอกาสเติบโต พัฒนาตัวเองได้อย่างเต็มที่ หากมีปัญหาคับข้องใจ ไม่เข้าใจกัน จะต้องปรึกษาพูดคุยกันได้ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เราเริ่มพาตัวเองออกจากปัญหา และทิ้งปมปัญหาไว้ พร้อมกับกับไปสร้างความสัมพันธ์อื่น ๆ แทน ความ Healthy ก็จะไม่เกิดขึ้นในความสัมพันธ์

การพูดคุยกันตั้งแต่ต้นเป็นเรื่องที่ดีค่ะ แต่เชื่อเถอะว่าคงไม่มีคนไหนที่จะมานั่งแจกแจงกฎเกณฑ์เพื่อให้อีกฝ่าทำตามได้จริง ๆ เพราะส่วนใหญ่จะมาจากความคาดหวังของตัวเราเองมากกว่า ดังนั้น เมื่อใดก็ตามที่ถึงจุดไม่พอใจ ให้เปิดอกคุยกันตรง ๆ ขีดเส้นให้ชัดเจน การไม่พูดคุยกันและปล่อยไป ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ช่วยผลักดันและโหมไฟให้เกิดความสัมพันธ์ใหม่ได้ง่ายขึ้น ความสัมพันธ์ของคนสองคนเป็นเรื่องที่ไม่ตายตัว แต่เราสามารถหาจุดกลางที่เหมาะสมกับคู่ของเราได้ค่ะ โดยสังเกตบุคลิกภาพของคู่เราว่าเป็นแบบไหน และปรับวิธีการสื่อสารให้เหมาะสม

ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบไหนขึ้น การพูดคุยกันจะเป็นกาวที่จะเชื่อมความสัมพันธ์ให้ไปต่อได้อย่างไม่สะดุด พูดคุย ปรับความเข้าใจ และจำไว้ว่าคนนอกไม่มีทางรู้ดีไปกว่าเราและคู่ของเรา

• Facebook
• X
• Line