อาถรรพ์ รัก 7 ปี บทพิสูจน์ความสัมพันธ์ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ

มีคนเคยพูดไว้ว่า ความรักจะไปต่อได้หรือไม่ให้ดูช่วงปีที่ 7 หลายคู่มีอันต้องโบกมือลาเมื่อเข้าโค้งที่ 7 หรือนี่จะเป็นอาถรรพ์ความรักอย่างที่ใครเขาพูดกัน นี่เป็นคำถามที่ใครหลายคนตั้งคำถามอยู่ในใจ และอยากจะหาคำตอบนั้นด้วยตัวเอง ว่าทำไมยิ่งรักกันนาน กลับกลายเป็นว่ารักกันน้อยลง เราจะมาคำตอบนั้นกันค่ะ ว่าสาเหตุอะไรที่ทำให้ความรักมักจะมาพังเอาช่วงปีที่ 7 หรือนี่จะเป็นบทพิสูจน์ความสัมพันธ์ในช่วงเปราะบาง

อยู่มาตั้งนาน ทำไมต้องมาพังเอาปีที่ 7

นี่เป็นคำถามที่ใครหลายคนสงสัย ว่าทำไมความสัมพันธ์ต้องมาจบลงตอนปีที่ 7 มีงานวิจัยเคยบ่งชี้ว่า แนวโน้มที่คู่รักจะนอกใจกันหรือไปไม่รอดในปีที่ 7 เป็นเรื่องจริง พบว่าความสัมพันธ์ของคู่รักที่คบกันนาน ไม่ได้มาจากประเด็นเรื่องใหญ่ ๆ แต่กลับมาจากประเด็นเรื่องยิบย่อย ที่บั่นทอนคนทั้งคู่จนเกิดการสะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ และทำให้กลายเป็นความเบื่อหน่ายในที่สุด ซึ่งสาเหตุความเป็นไปได้ มีดังต่อไปนี้

1. มาจากระบบร่างกายของมนุษย์

หลายคนที่กำลังอ่านอยู่อาจจะสงสัยว่าอาถรรพ์รัก 7 ปี มันไปเกี่ยวกับระบบร่างกายอย่างไร มันไปเชื่อมโยงกับทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ ที่พบว่าร่างกายของมนุษย์เรานั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ซึ่งกระบวนการรีเซตผ่านการแบ่งเซลล์จะครบวงจรในทุก ๆ 7 ปี ทำให้เกิดเป็นอีกหนึ่งข้อสันนิษฐานว่า วงโคจรของการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียงแค่เกิดขึ้นกับร่างกายภายนอก แต่อาจส่งผลต่อความรู้สึกนึกคิด ทำให้เรามักเปลี่ยนมุมมองของตัวเองใหม่ในทุก ๆ 7 ปี ด้วยนั่นเอง

 

2. โต้เถียงกันด้วยเรื่องเดิมซ้ำ ๆ

ในความสัมพันธ์ ไม่มีหรอกค่ะที่เราจะเข้าใจกันได้ทุกวัน มันก็ต้องมีบ้างที่บางวันถกเถียงกันบ้าง ทะเลาะกันบ้าง แต่ถ้าหากการโต้เถียง ทะเลาะกันนี้เกิดขึ้นในเรื่องเดิม ๆ เป็นประจำ ซ้ำ ๆ เห็นทีว่าลางจะไม่ดีแล้วล่ะค่ะ ถ้าในทางตรงกันข้าม ทะเลาะกันแล้ว เรายังเข้าใจกันดี ผลที่ได้ก็จะช่วยให้ความรักของเราเติบโตขึ้น แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่การโต้เถียงกันของคู่คุณไม่ได้ก่อให้เกิดบทเรียน ยังคงทะเลาะกันในเรื่องซ้ำ ๆ เดิม ๆ แน่นอนว่านั่นไม่ใช่สัญญาณที่ดีนัก เพราะหากเราทั้งคู่ยังสำคัญต่อกัน แล้วทำไมแทนที่เราจะมาโต้เถียงทะเลาะกัน เอาเวลานั้นไปคิดหาวิธีแก้ปัญหา มันจะไม่ดีกว่าหรือ?

3. ยังไม่พอใจในความสัมพันธ์ระหว่างกัน

หากวันหนึ่งความสัมพันธ์ของคุณทั้งคู่ เดินมาถึงจุดที่อยู่ ๆ คุณก็รู้สึกว่า คุณไม่รู้สึกโอเคจากอะไรที่คุณเคยโอเค หรืออะไรที่คุณเคยพอใจและเอ็นจอยกับมัน ก่อนที่ความไม่พอใจนี้จะสะสมจนกลายเป็นชนวนชิ้นใหญ่ที่ทำให้รักพัง เราแนะนำว่า คุณและคู่รักควรหากิจกรรมใหม่ ๆ ทำร่วมกัน เพราะความแปลกใหม่นี้จะช่วยให้คุณเอาชนะความไม่พอใจที่เกิดขึ้นได้

4. ทำกิจกรรมร่วมกันน้อยมากหรือแทบไม่เคยได้ทำร่วมกัน

แน่นอนว่าความสัมพันธ์ที่ดี ต้องมีพื้นที่ว่างคั่นกลาง เพื่อให้ต่างฝ่ายต่างได้ใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองชอบ แต่หากคุณกับคู่ของคุณไม่มีกิจกรรมทำร่วมกันเลย ช่องว่างอาจไม่ใช่แค่เพียงเพื่อเคารพพื้นที่ส่วนตัว แต่นี่อาจจะทำให้คู่ของคุณค่อย ๆ เหินห่าง ก่อนจะกลายเป็น “คนอื่น” ไปโดยไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตาม อย่าลืมที่จะแบ่งเวลาจากพาร์ทอื่น ๆ ในชีวิต เพื่อหากิจกรรมที่ชอบทำร่วมกันบ้าง

 

5. เวลาของคู่เราคือสิ่งสุดท้ายที่นึกถึง

เคยสังเกตกันไหมคะว่าแรก ๆ ที่คบกัน เรามักจะนึกถึงหน้าอีกฝ่ายอยู่ตลอด แต่เมื่อเวลาผ่านไป น้ำต้มผักที่ว่าหวาน ก็แปรเปลี่ยนเป็นน้ำตาลที่แสนขม เวลาของคู่เราถูกกลืนหายไป เราต่างค่อย ๆ ลดความสำคัญของอีกฝ่ายลงอย่าน่าประหลาดใจ บางคู่ที่มีลูกอาจจะเลือกยกเวลาทั้งหมดให้ลูก บางคู่อาจจะยกเวลาให้กับงาน เพื่อน หรือแม้แต่ให้กับตัวเอง แต่ถ้าไม่อยากให้รักมาถึงวันหมดอายุ แล้วต้องมานั่งคร่ำครวญว่าฉันควรให้ความสำคัญกับเธอมากกว่านี้ ลองคิด ทบทวน แล้วจัดอันดับความสำคัญใหม่ดูนะคะ เพราะในชีวิตของเรา จะยกโลกทั้งใบให้กับสิ่ง ๆ เดียวไม่ได้ คนเราต้องรู้จักสมดุลในชีวิตไม่เทไปที่จุดใดจุดหนึ่งที่มากเกินไป จนทำให้จุดที่เสียสมดุลและเกิดปัญหาตามมา

6. เกิดจากความวิตกกังวลและเชื่อในโชคลางมากเกินไป

หลายคนเมื่อฟังเรื่องอาถรรพ์รักล่มปีที่ 7 มาก ๆ เข้าก็เกิดอาการคิดมาก วิตกกังวลกลัวว่าความรักของคู่ตัวเองจะเป็นเช่นนั้นบ้าง แต่คุณรู้หรือไม่คะว่า การวิตกกังวลเช่านี้จะส่งผลให้คุณเครียดแบบไม่รู้ตัว และเอาเครียดนั้นไปลงใส่คู่ของคุณไม่รู้ตัวด้วยเช่นกัน จากที่ความสัมพันธ์อาจจะไม่ได้มีอะไร แต่ความวิตกกังวลนี้นั่นเองที่จะเป็นตัวจุดชนวนให้ความรักของคุณพัง ดังนั้น จงทำความเข้าใจว่าความรักนั้นไม่ได้มีรูปแบบที่ตายตัว การที่คู่อื่น ความสัมพันธ์จะพังในช่วงปีที่ 7 ก็ไม่ได้หมายความว่าคู่ของคุณจะพังเหมือนกันกับเขา ทำใจให้สบาย ทำทุกวันให้มันดีเป็นปกติ แล้วเผลอ ๆ มาดูอีกที ตอนนี้ความสัมพันธ์ของคุณอาจจะมาถึงปีที่ 8 แล้วก็ได้ค่ะ

หากเราลองมองให้ลึกว่า ทั้ง 5 ข้อนั้นล้วนเกิดจากสิ่งเล็กน้อยที่สะสมจนกลายเป็นเรื่องใหญ่ เพราะฉะนั้น ถ้ารักครั้งนี้ยังเป็นโลกอีกใบที่คุณไม่อยากจากมันไป เราอยากให้คุณและคู่ของคุณลองเปิดใจแล้วรับฟังกันและกัน เพราะความรักที่ดี ไม่ใช่รักที่ราบรื่นไร้อุปสรรค แต่มันคือรักที่เมื่อทะเลาะกัน แทนที่จะปล่อยมือกัน แต่มาจับมือกันให้แน่นกว่าเดิมต่างหาก

27 thoughts on “อาถรรพ์ รัก 7 ปี บทพิสูจน์ความสัมพันธ์ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *