คู่รัก

ไปต่อหรือพอแค่นี้ ถ้าความรักเดินมาถึงทางตัน

คุณเคยรักใครมาก ๆ ไหมคะ รักจนกลัวว่าวันหนึ่งจะเสียเขาไป แล้วเราจะเป็นอย่างไร จะอยู่ได้ไหม หากใครเคยอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้หรือกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าว ก็คงกำลังลังเลว่าจะเอาจะทำอย่างไรดี จะเลือกไปต่อหรือพอแค่นี้ ใจหนึ่งอาจจะไม่กล้าพอที่จะปล่อยมือ แต่อีกใจก็เหนื่อยเหลือเกินกับรักนี้ เอาอย่างไรดีล่ะ เราจะช่วยมาแนะนำและช่วยให้คำตอบในใจของคุณชัดเจนขึ้นค่ะ

เมื่อคุณเดินมาถึงทางแยกของความรักของคุณทั้งคู่ มีเพียง 2 ทาง ให้คุณโยนหินถามทางว่าคุณจะเดินต่อไปที่ทางไหน ระหว่าง ไปต่อ หรือ ยุติความสัมพันธ์ หากคุณเลือกทางแรก คุณจะต้องใช้วิธีปรับความสัมพันธ์และปรับตัวคุณเองให้ไปในทางที่ดีขึ้น ดังนี้

 

1. ใช้เวลาร่วมกันให้มากขึ้น

ความสัมพันธ์ที่มีเหตุให้ต้องเลิกรากันส่วนใหญ่มาจากการไม่มีเวลาให้กัน พอระยะระหว่างกันค่อย ๆ ห่างออกไป ความสนิทสนมคุ้นเคยกันก็ค่อย ๆ ลดน้อยลงตามไปด้วย ดังนั้น ลองหาเวลาได้อยู่ด้วยกันบ้าง ทำกิจกรรมร่วมกันบ้าง ก็จะช่วยให้เรากลับมาเห็นความทรงจำดี ๆ เมื่อครั้งที่เพิ่งคบกันใหม่ ๆ ได้

2. ยกย่องและชื่นชม

มนุษย์เราทุกคนล้วนต้องการความภาคภูมิใจ เมื่อเรายกย่องหรือชื่นชมคนรักของเราด้วยความจริงใจ จะทำให้อีกฝ่ายเกิด Self-Esteem ขึ้นที่จะสามารถทำสิ่งดี ๆ ได้อีก บรรยากาศระหว่างกันจะผ่อนคลายลง

3. ยิ้มให้กัน

แน่นอนว่าพอความรักเริ่มส่งสัญญาณไม่ดี ทางข้างหน้าเริ่มไม่ง่ายแล้วที่จะเดินไปให้ถึงปลายทาง ดังนั้นอย่ามัวแต่คิ้วขมวดนะคะ คนที่เห็นจะรู้สึกไม่ดี มีแต่ความเครียด กังวล ในทางจิตวิทยาบอกหากเราลองยิ้มรับปัญหา เมื่อเจอปัญหาหรือเรื่องที่ไม่พอใจ ปัญหานั้นจะดูเบาบางมากขึ้น

4. ทำตามใจกันสักวัน

ถ้าตลอดการคบกัน คุณไม่เคยได้ตามใจเขาบ้างเลย ลองดูค่ะ ไปในที่ที่เขาชอบไป ทำอะไรที่เขาชอบทำ เอาตัวคุณเข้าไปอยู่ในโลกของเขา และคุณจะมองเห็นช่องโหว่ระหว่างคุณกับเขา

5. ให้กำลังใจกัน

คู่รักจำนวนมากเลิกรากัน เพียงเพราะมองข้ามสิ่งเล็กน้อยของกัน ลองสังเกตคู่รักของคุณว่าตอนนี้เขากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากหรือไม่ จากนั้นเขียนโน้ตเล็ก ๆ ไว้ตามข้าวของเครื่องใช้ของเขา เพื่อเป็นการให้กำลังใจ สิ่งเล็กน้อยเหล่านี้จะสร้างรอยยิ้มให้อีกฝ่ายแบบไม่รู้ตัวเลยล่ะค่ะ

แต่ถ้าหากใครลองทำข้อแนะนำด้านบนแล้ว แต่ไม่เวิร์ก หรือคุณไม่สามารถฝืนใจทำมันต่อได้แล้ว อยากจะวางความสัมพันธ์นี้เสียที เราก็มีคำแนะนำที่จะช่วยให้คุณปล่อยมือจากความรักครั้งนี้ได้โดยดี ดังต่อไปนี้

 

1. ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น การเลิกรามาพร้อมความเจ็บปวดอย่างแน่นอน ซึ่งหากคุณยังเลือกที่จะวิ่งหนี ความเจ็บปวดนั้นก็จะยิ่งกินระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น ดังนั้นการยอมรับว่าความรักของเราไปต่อไม่ได้แล้ว เป็นสิ่งที่ควรทำ เคยได้ยินไหมคะว่า เจ็บแต่จบ ดีกว่าเจ็บไม่รู้จบ

2. เว้นระยะจากความรัก บางคนเมื่อจบจากรักครั้งเก่า ก็รีบกระโจนหารักครั้งใหม่ทันที เพื่อหาคนที่ดีกว่าคนรักของคุณ บอกเลยว่านอกจากจะไม่เวิร์กแล้ว โอกาสที่คุณจะเจ็บหนักกว่าเดิมก็เพิ่มมากขึ้นด้วยค่ะ ดังนั้นควรทิ้งระยะห่างออกจากเรื่องความรักสักระยะหนึ่ง เพื่อเรียนรู้สิ่งที่เกิดขึ้นและใช้ชีวิตคนเดียวดูบ้าง หากเราสามารถมีความสุขได้ด้วยตัวเอง เราก็ไม่จำเป็นต้องหาใครมาเติมเต็มเลย

3. วางแผนชีวิตในอนาคตให้ดี ๆ คุณควรมีแผนของการอยู่คนเดียวว่าต้องทำอะไรบ้าง ในกรณีของคู่ที่แต่งงานแล้วอาจจะต้องวางแผนในเรื่องของเงินทองด้วยค่ะ หรือการเลี้ยงชีวิตด้วยตัวเอง ที่สำคัญหากใครมีลูกด้วยกัน เรื่องการเลี้ยงดูก็เป็นอีกประเด็นที่ต้องวางแผนให้ชัดเจน

4. ให้อภัยซึ่งกันและกัน การให้อภัยในที่นี้หมายถึงการให้อภัยตัวเอง มีคนจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกโทษตัวเองว่าเป็นคนทำให้ความสัมพันธ์นี้ไปต่อไม่ได้ ในความรัก การพบและการพรากเป็นเรื่องธรรมดาค่ะ มีพบก็ต้องมีพราก และยิ่งถ้าเราไม่เห็นเป้าหมายร่วมกัน ไม่เห็นทางจะไปต่อ ก็ควรจะหยุดความสัมพันธ์นี้เสีย จงให้อภัยตัวเองและกล้าที่จะตัดสินใจอย่างเด็ดขาด เพราะถ้ารักเขา จึงควรปล่อยเขาไปในทางที่เขามีความสุข

5. ให้เวลากับตัวเองบ้าง ช่วงเวลาที่คบกัน คุณคงหมดเวลาไปกับการใช้เวลาส่วนใหญร่วมกัน ดังนั้นเมื่อเลิกรากัน ควรให้เวลากับตัวเองเพื่อให้ได้ทบทวนสิ่งที่ผ่านมาบ้าง ดังที่เขาบอกว่า เวลาจะเยียวยาทุกอย่าง เมื่อเวลาผ่านไปอาการอกหัก ร่องรอยบาดแผลในหัวใจก็จะค่อย ๆ จางหายไป และแน่นอนว่าเราไม่จำเป็นต้องลบความทรงจำทั้งหมด แต่จงเก็บไว้เพียงความทรงจำดี ๆ ที่ผ่านมา อะไรที่ไม่ดีก็ทิ้งไว้ข้างหลัง

การปล่อยมือไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายอย่างที่คิดนะคะ แต่การปล่อยให้จิตใจของตัวเองถูกบั่นทอนไปเรื่อย ๆ นั่นเลวร้ายกว่ามาก หากคิดทบทวน ชั่งน้ำหนักดูแล้ว จงลุกขึ้นยืนด้วยความกล้าหาญและเด็ดเดี่ยว Move on ไปข้างหน้า อย่างไรก็ดีกว่าการเดินกลับไปกลับมาเป็นวงกลม

49 thoughts on “ไปต่อหรือพอแค่นี้ ถ้าความรักเดินมาถึงทางตัน”

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *