นับตั้งแต่มีสถานการณ์โควิดมาก็ทำให้ผู้คนหันมาสนใจการปลูกต้นไม้และใกล้ชิดกับธรรมชาติกันมากขึ้นนะคะ จนหลายคนจริงจังถึงขนาดเสาะแสวงหาที่เรียนรู้เพื่อปูพื้นฐานการปลูกต้นไม้อย่างถูกต้องกันเลย แต่จนแล้วจนรอด บางคนก็ยังหาไม่ได้เนื่องจากที่เรียนรู้หลายแห่งอยู่ต่างจังหวัดซะเป็นส่วนใหญ่ อาจต้องเสียเวลาเดินทางกันนาน ซึ่งไม่ใช่ทุกคนจะมีเวลามากขนาดนั้น เราจึงจชวนทุกคนไปชม 6 ฟาร์มผักรุ่นใหม่ ให้ได้สัมผัสวิถีเกษตรกันง่าย ๆ ในกรุงเทพฯ และสถานที่ใกล้เคียง ถ้าพร้อมจะปลูกต้นไม้แล้ว ตามไปดูกันค่ะ
1. Hip Incy Farmville
ฟาร์มเกษตรของอดีตนักร้องดังอย่างคุณโอ๋ P2WarShip ที่ใช้แนวทางเกษตรพอเพียง โดยเปลี่ยนสนามฟุตบอล 1 ไร่ ให้มาเป็นแปลงเกษตร ทั้งปลูกผักออร์แกนิค เลี้ยงไก่ เลี้ยงเป็ด เพื่อผลิตไข่ เน้นหลักพึ่งพาตัวเอง ซึ่งนอกจากนี้ยังมีการจัดตลาด “ปันอยู่ปันกิน” ทุกวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือน ให้ผู้คนที่มีหัวใจสีเขียวเดียวกันมาขายของคุณภาพ ปลอดสารเคมี แลกเปลี่ยน แบ่งปันกัน ถ้าหากใครสนใจสามารถติดต่อล่วงหน้าเพื่อขอเข้าชมหรือทำกิจกรรมได้ค่ะ
พิกัด : ซ.นาคนิวาส 30 ถ.นาคนิวาส (ลาดพร้าว 71)
โทร : 0805860822
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Facebook : Hip Incy Farmville
2. ฟาร์มลุงรีย์
นาทีนี้ไม่มีใครไม่รู้จักฟาร์มลุงรีย์ ฟาร์มเกษตรในเมืองสุดสร้างสรรค์ด้วยฝีมือกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่เริ่มจากการคิดที่จะทำฟาร์มเพื่อกำจัดขยะด้วยไส้เดือน นำมูลมาปลูกต้นไม้ และเกิดการต่อยอดมาถึงการปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เพาะเห็ด นอกจากนี้ยังเปิดให้มีการเวิร์คช็อป ถ่ายทอดความรู้กันอย่างต่อเนื่อง ทำไม่เป็นไม่ต้องกลัว ที่นี่สอนตั้งแต่เริ่มพื้นฐาน ชนิดที่ว่าแทบจะจับมือทำกันเลยจ้า
พิกัด : เพชรเกษม 46 แยก 11
โทร : 0614145242
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Facebook : ฟาร์มลุงรีย์
3. สวนครูองุ่น
พื้นที่สีเขียวใจกลางทองหล่อ เป็นพื้นที่แห่งความสร้างสรรค์ เป็นสวนสาธารณะที่ผู้ใหญ่สามารถมาพักผ่อน และเด็ก ๆ สามารถมาเรียนรู้ธรรมชาติและเล่นเครื่องเล่นที่ถูกออกแบบมาเพื่อเด็กอย่างแท้จริง ประกอบด้วยหลายโซนด้วยกัน เช่น โซนห้องเรียนมนุษย์ ที่เน้นการศึกษานอกระบบตามความสนใจของผู้สอนและผู้เรียน โซนแบ่งปัน ที่มีการระดมทุนสร้างลานกิจกรรมเพื่อสังคม ฯลฯ เรียกได้ว่า สามารถเพลิดเพลินและได้สาระกันทั้งครอบครัวเลยค่ะ
พิกัด : ซอยทองหล่อ 13
เวลาเปิดทำการ : จันทร์ – ศุกร์ เปิด 10.00 น. – 16.00 น. และเสาร์ – อาทิตย์ เปิด 10.00 น. – 18.00 น.
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Facebook : สวนครูองุ่น
4. ฟาร์มเมล่อน บางหว้า
ไฮไลต์ของที่นี่อยู่ที่การมีโรงเรือนสำหรับปลูกเมลอนด้วยระบบไฮโดรโปนิกส์ ซึ่งได้มีการนำเอาเมลอนสายพันธุ์ญี่ปุ่นแท้ ๆ เข้ามาปลูก นั่นคือสายพันธุ์คิโมจิ ซึ่งที่นี่นั้นไม่ได้มีแต่เมลอนนะคะ แต่ยังปลูกผักอื่น ๆ ซึ่งเป็นผักแบบอินทรีย์เอาไว้ขาย ที่ผ่านมามีผู้คนแวะเวียนมาศึกษา ดูงาน เรียนรู้กันเยอะเลย ใครสนใจจะลองแวะไปเรียน หรือจะแวะไปซื้อเมลอนอร่อย ๆ หวานฉ่ำ ก็ได้เหมือนกันค่ะ รับรองเลยว่าผลิตผลที่นี่ไร้สารเคมีแน่นอน
พิกัด : ถ.ราชพฤกษ์ ใกล้กับบีทีเอสบางหว้า เดินทางกันได้ง่าย ๆ
เวลาเปิดทำการ : ปิดทุกวันจันทร์ เปิดตั้งแต่เวลา 10.00 น. – 18.00 น.
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Facebook : ฟาร์มเมล่อนบางหว้า
5. บ้าน ๑,๐๐๐ ไม้ café & farm
ฟาร์มขนาดเล็กแต่อัดแน่นด้วยกิจกรรมทางการเกษตรให้ได้ใช้เวลาร่วมกันทั้งครอบครัว ที่นี่บรรยากาศดีมากเลยค่ะ อยู่ริมน้ำ และออกแบบฟาร์มตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียงของรัชกาลที่ 9 มีการจัดสรรพื้นที่ได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งมุมถ่ายรูป จิบกาแฟ ชมวิว แปลงเกษตรแบบพอเพียง เลี้ยงสัตว์ พายเรือ พูดง่าย ๆ คือมีทุกอย่างเลยค่ะ ถ้าหากคุณได้มาที่นี่จะพบว่าเวลาผ่านไปเร็วมาก เพราะกิจกรรมดี ๆ ของเขามีเยอะมาก คุณจะเพลินกับการได้ใช้เวลาอย่างสร้างสรรค์
พิกัด : สามโคก ปทุมธานี
เวลาเปิดทำการ : เปิดเฉพาะเสาร์ – อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. – 17.00 น.
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Facebook : บ้าน ๑,๐๐๐ ไม้ café & farm
เห็นไหมล่ะคะว่า ถ้าหากเราสนใจในธรรมชาติ อยากจะปลูกต้นไม้ แต่ไม่อยากไปออกไปนอกเมืองที่ไกลนัก เราก็สามารถไปหาแหล่งเรียนรู้สีเขียวในกรุงเหมือนอย่างที่แนะนำข้างต้นได้ ไม่ต้องกังวลว่าจะทำไม่เป็นนะคะ ทุกคนมีก้าวแรกเสมอ ขอให้สนุกกับเรียนรู้ทางเกษตรกันน้า
ขอขอบคุณรูปภาพ
- https://www.facebook.com/HipIncyFarmville/
- https://www.facebook.com/unclereefarm
- https://www.facebook.com/suankruangoon/
- https://www.facebook.com/BangWaMelon/
- https://www.facebook.com/บ้าน๑๐๐๐ไม้cafefarm