เมื่อพูดถึงตำนานพญานาค เป็นสิ่งที่ชาวไทยและชาวลาวริมฝั่งโขงต่างให้ความศรัทธาอย่างมาก ซึ่งฝั่งด้านไทยเราอย่างจังหวัดหนองคาย ก็ยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งบั้งไฟพญานาคที่จะเกิดในช่วงวันออกพรรษา หนองคายเป็นจังหวัดทอดตัวยาวไปตามลำน้ำโขงซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกจังหวัดที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย ถึงแม้จะเป็นเมืองเล็ก ๆ แต่มนต์เสน่ห์ที่ซ่อนอยู่กลับดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวต่างอยากมาสัมผัสความสงบและความสวยงามสักครั้ง ดังนั้นเราจึงจะพาไปเที่ยว 10 ที่เที่ยวหนองคายที่น่าสนใจกันค่ะ
1. วัดหินหมากเป้ง
วัดหินหมากเป้ง นั้นได้มีชื่อเสียงอย่างมากก็จากการที่เป็นที่จำพรรษาของ หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ซึ่งนับว่าเป็นเกจิอาจารย์ชื่อดังของภาคอีสานที่มีประชาชนนับถือเป็นจำนวนมาก จึงทำให้วัดเเห่งนี้ความโด่งดังมากเช่นกัน แม้ว่าหลวงปู่จะมรณภาพไปแล้วก็ตาม แต่ชื่อเสียงก็ยังไม่จางหายไปไหน โดยชื่อของวัดมาจาก หินสามก้อนที่ตั้งเรียงรายกันอยู่ริมฝั่งเเม่น้ำโขง บริเวณที่ตั้งของวัด ซึ่งมีลักษณะเหมือนกับลูกตุ้มเครื่องชั่งทองในสมัยก่อน จึงกลายมาเป็นชื่อของวัดนี้ในที่สุด
พิกัด : https://goo.gl/maps/253ED8Rf7u5PHiHj8
เวลาเปิด-ปิด : 06.00 น. – 18.00 น.
2. วัดโพธิชัย
ที่นี่เป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อพระใส พระพุทธรูปขัดสมาธิราบ ปางมารวิชัย หล่อด้วยทองสีสุก เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของบรรดาชาวบ้านและผู้มาเยือน ในการขอพรให้สมหวังในหน้าที่การงาน แคล้วคลาด ปลอดภัย ร่ำรวย มีความสุข สมปรารถนาได้ทุกประการ เป็นอีกหนึ่งศรัทธาความเชื่อสำหรับผู้ที่มาขอพรกราบไหว้สักการะบูชา “พระธาตุอรหันต์” แห่งนี้
พิกัด : https://goo.gl/maps/dd7uwYSie5adYke48
เวลาเปิด-ปิด : 08.00 น. – 16.30 น.
3. น้ำตกธารทิพย์
ที่นี่ได้รับการจัดตั้งให้เป็นวนอุทยานน้ำตกธารทิพย์ ตัวน้ำตกมีทั้งหมดสามชั้น ไหลจากหน้าผาเป็นสายยาวสีขาวสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง ระยะทางเดินจากจุดเริ่มต้นไปถึงจุดสิ้นสุดประมาณ 500 เมตร ทว่าบริเวณสวยที่สุดคือชั้นสองซึ่งเดินเท้าไม่ไกลนัก มีแอ่งสามารถเล่นน้ำได้ แม้จะมีน้ำตลอดทั้งปีแต่ช่วงหน้าเที่ยวชมที่สุดคือตั้งแต่ฤดูฝนเป็นต้นไปจนถึงเดือนธันวาคม เพราะหลังจากนั้นน้ำจะค่อนข้างน้อย
พิกัด : https://goo.gl/maps/81vq6uSd6iNU4tpPA
เวลาเปิด-ปิด : 08.30 น. – 16.30 น.
4. วัดถ้ำศรีมงคล (ถ้ำดินเพียง)
“ถ้ำเพียงดิน” หรือเรียกอีกชื่อ “ถ้ำดินเพียง” วัดถ้ำศรีมงคล เป็นแหล่งท่องเที่ยวท้าทายเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบผจญภัยในถ้ำ ภายในเต็มไปด้วยความสวยงามของโขดหิน มีลักษณะคล้ายเมืองบาดาลของพญานาคตามความเชื่อของชาวบ้าน ภายในถ้ำจะมีความชื้น และมีน้ำไหลตลอดปี มีก้อนหินเป็นแท่งตั้งวางอย่างจงใจ บางก้อนเป็นโลงศพ มีส่วนเว้าโค้งของหินภายในถ้ำที่สวยงาม การเดินทางเข้าถ้ำควรมีผู้นำทางเพราะถ้าไปเองอาจทำให้หลงทางและเป็นอันตรายได้
พิกัด : https://goo.gl/maps/jcFXgxT9ZfYzhdHNA
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 น. – 17.00 น.
5. น้ำตกธารทอง
น้ำตกธารทองมีลักษณะเป็นธารน้ำไหลไปตามลานหิน มีแอ่งน้ำให้เล่นน้ำได้ ก่อนจะลดระดับเกิดเป็นชั้นน้ำตกเล็ก ๆ เป็นระยะลดหลั่นกันไปประมาณ 30 เมตรและไหลลงสู่ลำน้ำโขงในที่สุด ช่วงเวลาที่มีน้ำมากเหมาะแก่การมาเที่ยวชม คือระหว่างเดือนมิถุนายน – ตุลาคม จะมีน้ำที่มากพอจะเล่นได้ เป็นสถานที่สำหรับทุกเพศ ทุกวัย ได้มาเที่ยวชม เล่นน้ำ ใช้พักผ่อนหย่อนใจกันสบาย ๆ
พิกัด : https://goo.gl/maps/RHuBa6jWmRfBZWQM7
เวลาเปิด-ปิด : 08.30 น. – 16.30 น.
6. วัดผาตากเสื้อ
ถึงแม้จะเป็นวัดแต่ก็มีสกายวอร์กให้ชมวิวได้แบบ 360 องศาเต็ม ๆ ตา จุดชมวิวที่ว่านั้น เป็นจุดชมวิวกระจกใสแห่งแรกของประเทศไทย โดยความสวยงามดังกล่าวสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปแวะชมวิวบริเวณสกายวอล์กตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ ซึ่งคุณสามารถสัมผัสกับทะเลหมอกเหนือลำน้ำโขงไทย-ลาวที่สวยงามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากสกายวอล์กได้ยื่นจากหน้าผาออกไปหาทะเลหมอกที่เกิดขึ้น ราวกับกำลังเชิญชวนให้บรรดาผู้มาเยือนได้หยิบคว้าหมอกนั้นได้เลย บอกเลยว่าใครอยากถ่านรูปสวย ๆ ต้องห้ามพลาด
พิกัด : https://goo.gl/maps/JsuXkDvy2uQteEi87
เวลาเปิด-ปิด : 08.00 น. – 18.00 น.
7. ภูห้วยอีสัน
นั่งรถอีแต๊กขึ้นภู ดูพระอาทิตย์ขึ้น ส่องแม่น้ำโขง ชมทะเลหมอก นี่คือนิยามแห่งการเที่ยวภูห้วยอีสัน หนึ่งในจุดชมวิวแม่น้ำโขง ชายแดนไทย-ลาว กิจกรรมยอดฮิตที่บรรดานักท่องเที่ยวจะต้องมาทำราวกับเป็นธรรมเนียม นั่นคือการตื่นแต่เช้ามาชมทะเลหมอก ซึ่งที่นี่การปรับพื้นที่เพื่อเป็นจุดชมวิว อีกทั้ง มีร้านค้าเล็ก ๆ ของชาวบ้านขายเครื่องดื่ม กาแฟ ข้าวจี่ ของกินรองท้อง ระหว่างรอชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอก บอกเลยว่าบรรยากาศดี อากาศเย็น แถมวิวสวยระดับล้านจริง ๆ
พิกัด : https://goo.gl/maps/4cmGvGaqhUM1WbMi9
เวลาเปิด-ปิด : 05.00 น. – 19.00 น.
8. วัดไทย
วัดที่โดดเด่นด้วยการสร้างถ้ำเมืองบาดาลจำลอง และที่นั่นยังมีสิ่งที่น่าสนใจอย่าง รูปปั้นพญานาคนาคปรก 9 เศียร “นาคชัยยัญ” ที่ตั้งโดดเด่นอยู่ริมน้ำ ตำนานเล่าขานกันถึงเมืองหลวงของพญานาคแห่งโลกบาดาลใต้แม่น้ำโขง เชื่อกันว่าอยู่ที่ริมแม่น้ำโขงหน้าวัดไทย โดยประตูทางเข้าเมืองบาดาลจะเชื่อมเข้าไปในลำตัวของพญานาค ซึ่งจะลอดเข้าทางส่วนท้องของพญานาค และจะมุดออกทางส่วนหางของพญานาค ภายในแบ่งเป็นถ้ำจำลอง 7 ห้อง แต่ละห้องแสดงถึงเรื่องราวของเมืองบาดาล รวมถึง บริเวณทางเดินประดับด้วยจิตกรรมฝาผนังที่งดงาม เล่าเรื่องราวถึงตำนานของพญานาคและโลกบาดาล
พิกัด : https://goo.gl/maps/ubBXw7DHqTbajvrQ9
เวลาเปิดปิด : 09.00 น. – 17.00 น.
9. วังบัวแดง
บัวแดงที่บานสะพรั่งอยู่มากมายสุดลูกหูลูกตา ทำให้พื้นน้ำแห่งนี้เต็มไปด้วยสีชมพู โดยบัวที่นี่เป็นพันธุ์บัวสาย บัวพื้นถิ่นออกดอกสีแดง สีแดงอมชมพู บางช่วงจะมีบัวขาวแซมด้วย ขนาดดอกใหญ่ สีสันสวยงาม ทำให้ได้บรรยากาศความสวยงามหลากหลายของดอกบัว สำหรับการไปชมจะมีชาวบ้านรวมกลุ่มกันให้บริการพายเรือพานักท่องเที่ยวนั่งเรือเข้าไปสัมผัสกับความสวยงามของดอกบัวอย่างใกล้ชิด คิดอัตราค่าบริการคนละ 50 บาท โดยมีเสื้อชูชีพให้บริการนักท่องเที่ยว มีโป๊ะกลางน้ำให้นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นจากเรือไปถ่ายรูปชมวิวสวยงามได้
พิกัด : https://goo.gl/maps/VccHpS2XnT7ofhES9
เวลาเปิดปิด : 09.00 น. – 19.00 น.

10. พันโขดแสนไคร้
โขดหินสวยงามนับพันที่ชวนให้เราทอดสายตาออกไปมอง โดยเฉพาะในช่วงจะเข้าฤดูร้อนของทุกปีระดับน้ำในแม่น้ำโขงลดลง สามารถมองเห็นโขดหินโผล่ขึ้นจากแม่น้ำโขง ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่นับพัน ๆ โขด ในระยะทางยาวตามแม่น้ำโขงกว่า 5 กิโลเมตร ในแต่ละโขดก็จะมีต้นไคร้ขึ้นอยู่โดยทั่ว ๆ ไปนับแสนต้น จึงนำมาตั้งชื่อที่นี่นั่นเอง นอกจากมีโขดหินที่สวยงามแล้ว ยังมีหาดทรายสีขาว ผสมผสานกับน้ำในแม่น้ำโขงที่มีแสงแดดเหลืองทองตกกระทบระยิบระยับไปทั่วท้องน้ำ สวยงามจับใจ
พิกัด : https://goo.gl/maps/DSgc433JxUvGkwxv8
เวลาเปิด-ปิด : 05.00 น. – 19.00 น.